เนื้อหาในโพสต์
บนโลกนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยๆมากมาย ทั้งน้ำตก ภูเขา แม่น้ำ ทะเล รวมถึงถ้ำก็มีสวยๆแบบอลังการ จนไม่อยากเชื่อว่าธรรมชาติจะสร้างสิ่งเหล่านี้ไว้บนโลกได้ วันนี้เราจะพาไปพบกับ 10 ถ้ำที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในโลกกันค่ะ
1. Son Doong Cave ประเทศเวียดนาม
ถ้ำเซินด่องเป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติฟ็องญา-แก๋บ่าง อำเภอโบ๊จัก จังหวัดกว๋างบิ่ญ ในภาคกลางของเวียดนาม ถ้ำถูกค้นพบในปี ค.ศ.1991 โดยคนท้องถิ่น ต่อมานักสำรวจชาวอังกฤษเข้ามาสำรวจอีกครั้งในปี 2009 พบว่ามีแม่น้ำใต้ดินขนาดใหญ่ สายน้ำไหลเชี่ยวอยู่ภายในถ้ำ แวดล้อมไปด้วยถ้ำขนาดเล็กอีกประมาณ 150 แห่ง อายุน่าจะราวๆ 2 – 5 ล้านปี ภายในถ้ำเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์และความหลากหลายทางธรรมชาติ เหมือนเป็นโลกอีกใบหนึ่ง มีทั้งผืนป่า หินงอกหินย้อย และไข่มุกถ้ำ นอกจากจะเป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ยังเป็นถ้ำที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย
2. Reed Flute Cave ประเทศจีน
Reed Flute Cave หรือถ้ำขลุ่ยอ้อตั้งอยู่ชานเมืองกุ้ยหลิน อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 5 กิโลเมตร ชื่อของถ้ำมาจากต้นอ้อที่ขึ้นอยู่ด้านหน้าถ้ำเป็นจำนวนมากและในอดีตนิยมเอาต้นอ้อมา ทำขลุ่ย ถ้ำนี้เป็นถ้ำเก่าแก่ มีอายุกว่า 180 ล้านปี ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยตลอดทาง นอกจากนี้ยังมีภาพเขียนสีโบราณสมัยราชวงศ์ถัง แต่ไฮไลท์เด็ดของถ้ำแห่งนี้คือมีวังบาดาล เราจะเห็นเงาของหินงอกหินย้อยตกสะท้อนลงในน้ำ บวกกับแสงไฟสีน้ำเงินที่ส่องประดับท่ามกลางโถงน้ำขนาดใหญ่ ทำให้ตรงนี้ดูสวยงามมากเป็นพิเศษ
3. Melissani Cave ประเทศกรีซ
ถ้ำเมลิสซานีตั้งอยู่บนเกาะเคฟาโลเนีย ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซามิ ประเทศกรีซ แต่ก่อนเป็นเกาะหินปูนที่ถูกน้ำกัดเซาะจนกลายเป็นโพรงถ้ำสวยงาม ภายในถ้ำมีโพรงใหญ่หลักอยู่ 2 ห้องด้วยกัน แต่มีอยู่ห้องหนึ่งส่วนหลังคาของโพรงได้ถล่มลงมาตามธรรมชาติ กลายเป็นช่องให้แสงแดดส่องลงมากระทบผิวน้ำของทะเลสาบที่มีสีฟ้าอมสีเขียวดั่งมรกตและน้ำที่ใสราวกับผลึกคริสตัลได้อย่างน่าอัศจรรย์ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาชมความสวยงามภายในถ้ำด้วยการนั่งเรือเล็กๆ นอกจากภายในถ้ำจะสวยงามไปด้วยหินงอกหินย้อยแล้ว ทัศนียภาพโดยรอบของถ้ำยังสวยงามไปด้วยต้นไม้ ป่าไม้และภูเขาสูง
4. Marble Cave ประเทศชิลี
ถ้ำสวยแปลกตานี้ตั้งอยู่ในจังหวัด Coyhaique ประเทศชิลี ความแปลกของมันเกิดจากการรังสรรค์ของธรรมชาติ ปรากฏการณ์น้ำจากแม่น้ำ Rio Tranquilo ไหลทะลุทะลวงสู่คาบสมุทรหินปูนยักษ์ ขุดเจาะเป็นโพรงซับซ้อน วกวนมากว่า 6,200 ปี จนเกิดเป็นถ้ำหินอ่อนขึ้น ความสวยที่เลื่องลือของถ้ำแห่งนี้ก็คือสายน้ำใสสีฟ้าที่สะท้อนกับเพดานหินอ่อนด้านบนทำให้เกิดเสียงระยิบระยับ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมความงามอย่างใกล้ชิดภายในถ้ำด้วยการพายเรือคายัคลัดเลาะไปตามถ้ำ
5. Fingal’s Cave ประเทศสกอตแลนด์
ถ้ำฟิงกอลตั้งอยู่บนเกาะสตาฟฟา ในบริเวณหมู่เกาะอินเนอร์เฮบริดีส เป็นเกาะที่ตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันตกของแผ่นดินใหญ่ ประเทศสกอตแลนด์ ความพิเศษของถ้ำนี้อยู่ที่มีเสาหินบะซอลต์ที่เป็นทรงหกเหลี่ยมมากมายเรียงรายอยู่ทั่วทั้งบริเวณถ้ำ ส่วนตัวถ้ำเองก็ใหญ่มากด้วยความสูงมากถึง 20 เมตร ลึกยาวเข้าไป 70 เมตร ความพิเศษอีกอย่างคือ มีเสียงออกมาจากในถ้ำเป็นเสียงสะท้อนของเกียวคลื่น จะว่าเป็นเพลงบรรเลงจากธรรมชาติก็ว่าได้
6. Skocjan Caves ประเทศสโลวีเนีย
ถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในแคว้นคราส ประเทศสโลวีเนีย ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1986 มีความยาว 6 กิโลเมตร มีความลึกมากถึง 200 เมตร ภายในถ้ำยังมีน้ำตกมากมายหลายสาย ไฮไลท์ของถ้ำนี้คือ การเดินทางข้ามสะพาน Cerkvenik เพื่อเดินทางไปยังถ้ำ Šumeca สะพานนี้ลอยอยู่เหนือแม่น้ำ Reka ขณะเดินผ่านจะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังมองเห็นโลก ด้วยแผ่นหินและหินงอกหินย้อยด้านล่างที่มีอายุกว่าหลายล้านปี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งถ้ำที่ธรรมชาติสร้างสรรค์มาได้อย่างสวยงามมาก
7. Crystal Ice Cave ประเทศไอซ์แลนด์
ถ้ำน้ำแข็งคริสตัลแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองสตัฟทาเฟล เป็นถ้ำที่เกิดจากธารน้ำแข็งสวีน่า เฟลล์โจกุลในทะเลสาปที่ถูกแช่แข็งด้วยอุณหภูมิติดลบ ความมหัศจรรย์ของถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้คือ มีสีลักษณะสีฟ้าครามและความงามของหินงอกหินย้อยที่ส่องแสงสีฟ้าเป็นประกายระยิบระยับผ่านแผ่นน้ำแข็งที่หนาทึบ ที่อาจจะเปลี่ยนรูปร่างในแต่ละวันตามสภาพอากาศของวันนั้นๆ การเข้าไปชมความงามของถ้ำน้ำแข็งคริสตัลแห่งนี้ต้องอาศัยความปลอดภัยเป็นอย่างมากในช่วงฤดูหนาวที่มีอุณหภูมิติดลบประมาณ 25 – 30 องศาเซลเซียส คนที่ไม่กลัวหนาวและอยากชมความงามของถ้ำแห่งนี้ก็ลุยได้เลย
8. Waitomo Glowworm Cave ประเทศนิวซีแลนด์
ถ้ำสุดมหัศจรรย์นี้ชื่อว่า ถ้ำหนอนเรืองแสง ตั้งอยู่ในเกาะเหนือทางตอนใต้ของเมืองไวกาโต ที่ชื่อว่าถ้ำหนอนเรืองแสงเพราะมีหนอนเรืองแสงนับล้านตัว ส่งแสงระยิบระยับเพื่อล่อแมลง ซึ่งหนอนเรืองแสงนี้มีถิ่นกำเนิด และพบเฉพาะในประเทศนิวซีแลนด์ และพบในถ้ำที่ชื้นเปียกเท่านั้น จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาชมหนอนเรืองแสงที่ถ้ำแห่งนี้กันมากมาย ด้วยความที่หนอนเรืองแสงส่งแสงระยิบระยับในถ้ำที่มืดมิด ทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนมองดาวระยิบระยับในถ้ำยังไงยังงั้น
9. Cave of the Crystals ประเทศเม็กซิโก
ถ้ำคริสตัลยักษ์ตั้งอยู่ที่เมืองไนก้า ทางตอนเหนือของประเทศเม็กซิโก ค้นพบโดย 2 พี่น้อง Eloy และ Javier Delgado ระหว่างการทำเหมือง ภายในโพรงถ้ำได้ค้นพบผลึกแร่ยิปซัมขนาดใหญ่ ที่เกิดจากของไหลเนื่องจากน้ำร้อนที่มาจากกระเปาะหินหนืดแมกมาที่อยู่ข้างใต้ ความลึกใต้ดินกว่า 300 เมตร อุณหภูมิก็สูงถึง 58 องศาเซลเซียส ความร้อนนี้มาจากใต้โลก หากอยู่ในถ้ำเกิน 15 นาทีอาจถึงแก่ชีวิตได้ ด้วยเหตุนี้จึงไม่เปิดรับนักท่องเที่ยว มีแค่เจ้าหน้าที่เข้าไปเท่านั้น
10. ถ้ำพระยานคร ประเทศไทย
ถ้ำพระยานครตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ถ้ำแห่งนี้ถูกค้นพบโดยเจ้าพระยานคร ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ต่อมารัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประทับในคราวเสด็จประพาสต้น ช่วงเวลาที่ภายในถ้ำสวยที่สุด คือช่วงเวลาเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ เวลา 10.30 – 11.30 น. โดยประมาณ จะมีแสงอาทิตย์ส่องผ่านปล่องลงมาตกกระทบตรงพลับพลา เป็นภาพที่สวยงามตระการตายิ่ง