เนื้อหาในโพสต์
ปัจจุบันนี้สภาพอากาศเต็มไปด้วยมลพิษ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 ที่นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น จนทำให้เราหายใจไม่สะดวก ป่วยง่าย และเป็นโรคภูมิแพ้ได้ เครื่องฟอกอากาศจึงเป็นอุปกรณ์จำเป็นที่เราต้องมีติดบ้านไว้ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็กและคนสูงอายุ เพื่อให้อากาศภายในบ้านบริสุทธิ์ สดชื่น และเป็นการลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพต่างๆที่เกิดจากอากาศที่ไม่บริสุทธิ์ด้วย ดังนั้นวันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปดูเครื่องฟอกอากาศที่ขายดีและเป็นที่นิยมเหมาะกับเมืองไทยบ้านเราว่ามีรุ่นไหนกันบ้าง เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น

1. XIAOMI XMI-FJY4013GL
เครื่องฟอกอากาศยอดนิยมที่เกือบทุกบ้านเลือกใช้ มาพร้อมกับระบบมอเตอร์คู่ DC Brushless 2 ใบพัด ที่ช่วยคัดกรองอากาศเข้าสู่ตัวเครื่องได้อย่างแม่นยำ การกรองอากาศและกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ก็สามารถทำได้ดีถึง 99.99% รูปทรงก็สวยงาม ทันสมัย เทคโนโลยีก็เด่น สามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชัน Mi Home เพื่อควบคุมการทำงานได้

2. Philips รุ่น AC0820/20
เป็นเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับห้องขนาดเล็กอย่างห้องนอน จุดเด่นอยู่ที่มีระบบการฟอกอากาศหลายชั้น ไม่ว่าจะเป็นการกำจัดสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อในอากาศได้สูงถึง 99.99% และไม่ต้องกังวลเรื่องเสียง เพราะเครื่องนี้เงียบมาก ทั้งยังมีโหมด Sleep ที่ช่วยหรี่ไฟขณะที่คุณนอนหลับอีกด้วย

3. Sharp รุ่น FP-J30TA-P
เป็นอีกหนึ่งเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก ที่มีสีชมพูสวยงาม จุดเด่นอยู่ที่มีระบบฟอกอากาศพลาสม่าคลัสเตอร์ และแผ่นกรอง HEPA ที่ช่วยกรองอากาศได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังสามารถฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียในอากาศ เชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1 ได้ถึง 99.97%

4. TOSHIBA CAF-H30(W)
บ้านไหนที่เลี้ยงน้องหมาน้องแมว เครื่องฟอกอากาศจาก TOSHIBA รุ่นนี้เหมาะมากกับบ้านของคุณ เพราะช่วยกรองฝุ่นและขนสัตว์ได้ รวมทั้งช่วยยับยั้งการทำงาน และการเจริญเติบโตของไวรัส รวมถึงกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ตัวเครื่องมีโหมดความแรงให้เลือกมากถึง 4 ระดับ Turbo High Mid Low และสามารถเปิดโหมด Sleep ได้เมื่อคุณต้องการพักผ่อน

5. SAMSUNG AX60R5080WD/ST
เครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับพื้นที่กว้าง จุดเด่นอยู่ที่มีการใช้ Laser PM Sensor ที่ช่วยตรวจจับฝุ่นที่มีอนุภาคเล็กกว่า 1.0 PM รวมไปถึงก๊าซปนเปื้อนอื่นๆ ในอากาศได้ดี จึงมั่นใจได้ว่าอากาศภายในบ้านของคุณสะอาด บริสุทธิ์แน่นอน นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น SmartThings ในการควบคุมการทำงานได้ด้วย

6. Bwell CF-8400
เครื่องฟอกอากาศจาก Bwell รุ่นนี้เหมาะมากกับบ้านที่มีทั้งเด็กเล็ก คนสูงอายุ และคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ เพราะไม่มีการใช้อุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดฝุ่นดำ และฟอกอากาศให้มากถึง 6 ขั้นตอน สามารถกรองได้ทั้งฝุ่นละออง ก๊าซพิษ และกลิ่น รวมถึงฆ่าเชื้อไวรัสด้วย UVGI ทำให้ได้อากาศที่บริสุทธิ์และสะอาดมากที่สุด

7. MITSUTA รุ่น MAP450
สำหรับเครื่องฟอกอากาศ MITSUTA รุ่น MAP450 นี้เป็นเครื่องฟอกอากาศ 6 ขั้นตอน สามารถฟอกได้ทั้งฝุ่น กลิ่นไม่พึงประสงค์ และสารเคมีต่างๆ ปรับลมแรงได้ 3 ระดับ ทั้งยังมีโหมด Sleep ไว้เปิดในยามที่คุณต้องการพักผ่อน ถือว่าเป็นอีกเครื่องฟอกอากาศที่น่าสนใจสำหรับบ้านไหนที่มีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และคนที่เป็นโรคภูมิแพ้

8. ELECTROLUX รุ่น EAC415
เป็นเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับห้องขนาดกลาง ช่วยกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ดี พร้อมกับช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ สามารถกำจัดฝุ่นละอองและสารก่อภูมิแพ้ได้มากถึง 99.95% ช่วยให้บ้านของคุณเต็มไปด้วยอากาศที่บริสุทธิ์และสดชื่นตลอดวัน

9. HATARI รุ่น HT-AP12
เป็นเครื่องฟอกอากาศที่ขายดีอีกเครื่องและเหมาะสำหรับเมืองไทย กับ HATARI รุ่น HT-AP12 มีขนาดเล็ก กะทัดรัด ใช้งานง่าย เหมาะกับห้องขนาดเล็ก แต่คุณภาพไม่เล็กตาม เพราะมีตัวกรองให้มากถึง 4 ชั้น ช่วยกรองทั้งฝุ่นละออง เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และกลิ่นได้ดี ส่วนฝุ่น PM 2.5 ก็กรองได้ดีเยี่ยมเช่นกัน

10. Honeywell รุ่น AIR TOUCH A5
เป็นอีกหนึ่งเครื่องฟอกอากาศที่กรองฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งช่วยขจัดมลพิษ เขม่าควันพิษ ไวรัส และแบคทีเรีย ระบบกรองอากาศก็สามารถทำงานได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยให้อากาศหมุนเวียนถ่ายเทสะดวก พร้อมระบบป้องกันเด็ก ให้อากาศในห้องสดชื่นตลอดวัน

ถึงแม้ว่าช่วงนี้ฝนตกหนัก อากาศจะดีขึ้น แต่ก็ยังวางใจไม่ได้เพราะยังมีฝุ่น PM 2.5 อยู่ การมีเครื่องฟอกอากาศไว้ก็ทำให้เราอุ่นใจ ว่าจะได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ สดชื่น ซื้อติดบ้านไว้ยังไงก็ได้ประโยชน์กว่าไม่ได้ซื้อแน่นอน